Street Fighter II Dash Plus บน Mega Drive – อีกก้าวของตำนานไฟท์ติ้ง
หลังจากสร้างปรากฏการณ์ในอาร์เคดกับ Street Fighter II และ Street Fighter II’ แล้ว ในปี 1992 Capcom ได้ปล่อย Street Fighter II’ TURBO ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับสมดุลและเพิ่มความเร็วให้การต่อสู้ดุเดือดยิ่งขึ้น จุดเด่นคือเกมเพลย์ที่รวดเร็วและปรับท่าใหม่บางส่วนของตัวละคร ทำให้การเล่นมีมิติแตกต่างจากภาคก่อน
แม้เกมนี้เริ่มพัฒนาเพื่อรับมือกับบอร์ดดัดแปลงที่ทำให้เกมเร็วผิดปกติ แต่กลับกลายเป็นภาคที่แฟนๆ ยกให้สนุกและท้าทายที่สุดภาคหนึ่ง
เวอร์ชัน Mega Drive Street Fighter II Dash Plus
วันที่ 28 กันยายน 1993 Sega นำเกมนี้มาลง Mega Drive ในชื่อ Street Fighter II Dash Plus ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Street Fighter II Dash
รายละเอียดสำคัญ
- ใช้ 24Mbit ROM Cartridge ทำให้ใส่คอนเทนต์ได้เต็ม รวมถึงฉากเปิดแบบ Street Fight ที่แฟนๆ จำได้จากอาร์เคด
- รองรับทั้ง 6-button controller และ 3-button controller แบบดั้งเดิม แต่ถ้าใช้ 3 ปุ่ม ต้องกดปุ่ม Start เพื่อสลับหมัดและเตะ
- มีโหมดหลัก 2 แบบ
- Dash Mode – เล่นได้ครบ 12 ตัวละคร รวมถึง Shadaloo Four (Shitenno / สี่จตุรเทพ)
- Excite Mode – เพิ่มท่าใหม่ เช่น Hadoken, Shoryuken, Yoga Teleport ปรับบาลานซ์ และเลือกความเร็วได้สูงสุด 11 ระดับ
- มี Group Battle Mode ให้ผู้เล่นจัดทีมตัวละครสูงสุด 6 คนต่อสู้แบบทีม
เกร็ดโฆษณาและแคมเปญ
- CM ของ Dash Plus เป็นการเปิดตัวของ Thane Camus นักแสดงรุ่นใหม่ รับบทเป็น Vega (เวอร์ชัน US: Balrog)
- เกมมาพร้อม โปสการ์ดตอบกลับ ให้ผู้เล่นส่งลุ้นรับ วีดีโอเบื้องหลังการทำ CM ของ Dash Plus
ทั้งสองอย่างช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับแฟนๆ และเพิ่มความตื่นเต้นให้การเปิดตัวเกม
ความทรงจำและเอกลักษณ์
Street Fighter II Dash Plus เป็นเกมที่แฟน Mega Drive จดจำได้ดี ไม่เพียงเพราะเป็นไฟท์ติ้งเกมเรือธง แต่ยังเป็นเวอร์ชันที่ใส่ลูกเล่นพิเศษเฉพาะ Mega Drive เช่น ความเร็วที่ปรับได้ละเอียด และโหมด Group Battle
เกมนี้ยังถูกนำกลับมาในหลายรูปแบบ เช่น Mega Drive Mini (2019) และ Nintendo Switch Online (2023) ยืนยันถึงความสำคัญของภาคนี้ในประวัติศาสตร์ Street Fighter
บทสรุป
แม้จะตามหลัง Super Famicom อยู่ช่วงหนึ่ง แต่ Mega Drive ก็ได้โชว์พลังเต็มที่กับ Street Fighter II Dash Plus ที่มอบประสบการณ์การต่อสู้สมจริง พร้อมลูกเล่นพิเศษที่หาไม่ได้ในเวอร์ชันอื่น
นี่คืออีกหนึ่งหมุดหมายที่ทำให้ชื่อของ Street Fighter II กลายเป็นตำนานไฟท์ติ้งที่ไม่มีวันลืม
Comments
Post a Comment