The King of Fighters '97 กับบทสรุปของตำนานโอโรจิ

The King of Fighters '97 เปิดตัวครั้งแรกในอาร์เคดวันที่ 28 กรกฎาคม 1997 เป็นภาคที่ 4 ของซีรีส์ และเป็นตอนจบของเรื่องราว “Orochi Saga” ที่เริ่มมาตั้งแต่ภาค ‘95 จุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มโหมดต่อสู้ใหม่ และการเปิดตัวทีมปริศนาที่กลายเป็นศูนย์กลางของเนื้อเรื่อง

ระบบ Advanced และ Extra

ผู้เล่นสามารถเลือกสไตล์การเล่นได้สองแบบ:

  • Advanced Mode พัฒนาจากภาค ‘96 สามารถสะสมเกจพลังได้สูงสุด 3 ช่อง ใช้ปล่อยท่าไม้ตายหรือเข้า MAX Mode เพื่อเพิ่มความแรงของท่า
  • Extra Mode คล้ายกับภาค ‘94–‘95 ใช้การชาร์จพลังและสะสมเกจจากการรับความเสียหาย หากพลังใกล้หมดและหลอดกระพริบ จะใช้ MAX Super ได้

ตัวละครใหม่และบทสรุปเรื่องราว

การแข่งขัน KOF ถูกจัดในระดับโลก ตัวละครจากภาคก่อนกลับมาครบเกือบทั้งหมด ยกเว้นทีมบอสที่ถูกยุบไป และ Mature กับ Vice ที่หายตัวไปหลังจากถูก Iori สังหาร

Billy Kane จับทีมกับ Blue Mary และ Yamazaki ขณะที่ Iori กลับมาในฐานะทีมเดี่ยว พร้อม Shingo ที่พยายามเลียนแบบท่า Kyo

ทีม New Faces (Yashiro, Shermie, Chris) ปรากฏตัวครั้งแรกในเกมนี้ และกลายร่างเป็นเวอร์ชัน Orochi เมื่อถึงช่วงท้ายของเกม Chris ยังกลายเป็นร่างทรงของ Orochi ซึ่งรับบทเป็นบอสใหญ่

ฉากจบจะเปลี่ยนไปตามทีมที่เลือก เช่น ทีม Kyo จะได้เห็นสามคนในทีม New Faces สังเวยชีวิตเพื่อคืนชีพ Orochi ส่วนถ้าเลือกทีม Kyo, Iori และ Chizuru จะได้ฉากจบพิเศษที่เผยความจริงว่า Yuki แฟนของ Kyo คือกุญแจในการปลุกพลังของ Orochi

เบื้องหลังการสร้าง

ภาคก่อนหน้า The King of Fighters '96 เป็นผลงานกำกับของ Masanori Kuwasashi ที่ออกจากตำแหน่งเนื่องจากแรงดันจากการออกเกมปีต่อปี ต่อมา Toyohisa Tanabe ผู้รับผิดชอบออกแบบระบบต่อสู้ (battle designer) ได้เข้ามาทำหน้าที่กำกับในภาค ‘97 และเป็นผู้ปิดตำนาน “Orochi Saga”

แรงบันดาลใจของเนื้อเรื่องมาจากเทพนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Susanoo ปราบงูยักษ์ Orochi ซึ่งสะท้อนผ่านบทบาทของ Kyo และอาวุธในตำนานอย่างดาบคุซานางิ

Chris ถูกวางตัวให้เป็นร่างทรงของ Orochi มาตั้งแต่แรก สีของเปลวเพลิงถูกเปลี่ยนจากดำเป็นม่วงเพื่อให้ดูเหนือธรรมชาติ ทีมงานเคยออกแบบร่างบอสให้ดูคล้ายเด็กชายเรืองแสง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นดีไซน์ปัจจุบันที่ดูเหมือนเทพเจ้ามากขึ้น

ทีม New Faces ถูกวางบทให้สะท้อนกับทีมตัวเอก:

  • Chris ใช้ไฟเหมือน Kyo
  • Shermie ใช้ไฟฟ้าเหมือน Benimaru
  • Yashiro เน้นพละกำลังคล้าย Daimon

Yamazaki ซึ่งมีธีมงูคล้ายกัน ถูกปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นวายร้ายชัดเจน Blue Mary ใช้ดีไซน์จากภาค Fatal Fury 3

Orochi Iori เคยถูกวางไว้เป็นบอสใหญ่ แต่สุดท้ายถูกปรับลดมาเป็น Mid-boss โดยมี Orochi Leona เพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกพิเศษหากผู้เล่นเลือก Iori ไปแล้ว

กระแสตอบรับ

เกมวางขายในอาร์เคดเมื่อปลายกรกฎาคม 1997 ตามด้วยเวอร์ชัน Neo Geo AES, Neo Geo CD และคอนโซลต่างๆ ในภายหลัง

ในปี 2018 SNK ได้ออกเวอร์ชันออนไลน์ชื่อ KOF '97 Global Match สำหรับ PlayStation 4, PS Vita และ Steam

KOF '97 ถือเป็นหนึ่งในภาคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค Neo Geo โดยเวอร์ชัน AES มียอดขาย 150,000 ตลับในญี่ปุ่น ส่วนเวอร์ชัน PlayStation และ Saturn ทำยอดขายรวมกันเกือบ 100,000 ชุดในสัปดาห์แรก

ภาพประกอบจาก SNK

Comments

Popular posts from this blog

The Making Of: Earthion – เสน่ห์อมตะของ Mega Drive

Marvel Tōkon: Fighting Souls จะไม่จบเกมด้วยคอมโบเดียว

Sonic Mania – การกลับมาของเม่นสายฟ้าในรูปแบบคลาสสิก 2D

Dragon Ball Z II Gekishin Freeza!! เกม RPG แฟมิคอมยุค 90 ที่แฟนห้ามพลาด

อดีตหัวหน้า PlayStation ชี้ Game Pass ทำให้นักพัฒนาเหมือนลูกจ้างรายชั่วโมง

Xbox อาจถึงทางแยกแบบ Sega อดีตบอส PlayStation กล่าว

CAPCOM VS. SNK MILLENNIUM FIGHT 2000 ตำนานการดวลข้ามค่ายในฝัน

Gintama ประกาศสร้างภาพยนตร์ใหม่ “Yoshiwara Dai Enjou” ปี 2026

Yoshi’s Island จุดเริ่มต้นของฮีโร่ตัวเขียว

Ken ใน Fatal Fury, Chun-Li DLC และความเป็นไปได้ของ Capcom vs SNK