ยุคของคอนโซลกำลังจะจบ อดีต PlayStation CEO กล่าว

เราอยู่ช่วงกลางอายุของ PS5 และหลายคนคงสงสัยว่า PlayStation 6 จะมาเมื่อไหร่ ในขณะเดียวกัน Xbox ก็เริ่มพูดถึงคอนโซลรุ่นใหม่ที่ทั้งแรงและหรูหรา แต่เอาจริงๆ เกมส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้สเปกเต็มแบบนี้ แล้วเทคโนโลยีสุดล้ำที่กำลังมา มันสร้างมาเพื่อใครกันแน่?

ตลาดบอกเราชัดเจนว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้อยากได้คอนโซลแรงขึ้นสองเท่าทุก 7 ปี แม้จะมีคนบางกลุ่มที่ชอบของแรงๆ ก็ตาม

จากบทสัมภาษณ์ของ Shawn Layden อดีตหัวหน้า PlayStation ที่เคยเปิดตัวคอนโซล 6 รุ่น และเคยเป็น CEO ของ Sony Interactive Entertainment America เขามองว่า อนาคตของเกมไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ แต่คือเนื้อหาและความคิดสร้างสรรค์

“ตอนนี้ความแตกต่างของคอนโซลแทบไม่ต่างกัน สำหรับคนส่วนใหญ่มันไม่ได้มีผลอะไร ถ้าเราจะทำให้เกมเข้าถึงง่ายเหมือนฟังเพลงหรือดูหนัง การมีเครื่องเล่นเกมควรเป็นเรื่องง่ายเหมือนซื้อเครื่องปิ้งขนมปัง”

Layden เปรียบเทียบวงการเกมกับเทคโนโลยีเก่าๆ อย่าง Betamax หรือ HD-DVD ที่บางครั้งการพยายามควบคุมทุกอย่างเองกลับไม่คุ้มค่า

เขายังมองว่า Microsoft กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจสำคัญ คล้ายกับตอนที่ Sega เลิกทำคอนโซลหลัง Dreamcast และถ้าวันหนึ่ง Microsoft เลิกทำ Xbox PlayStation อาจรวมกลุ่มผู้ผลิตอื่นๆ มาทำฮาร์ดแวร์ตามมาตรฐานเดียวกัน แล้วสร้างรายได้จากซอฟต์แวร์แทน

แม้เกม Xbox และ PlayStation เริ่มมาลง Windows PC, ROG Ally X และ Steam Machine ของ Valve แต่ปัญหาหลักของเกม AAA คือ ต้นทุนสูงและใช้เวลานานมาก เกมหนึ่งอาจใช้งบหลายร้อยล้านดอลลาร์ เช่น Grand Theft Auto 6 ที่ถูกอ้างว่ามีงบเกิน 1 พันล้าน

“เราต้องถามตัวเองว่า เกมต้องการอะไรจริงๆ? การไล่ความสมจริงสุดๆ มันคุ้มค่าหรือเปล่า มาริโอ้ก็ไม่เคยล้มเพราะไม่สมจริงเลย”

Layden มองว่าตลาดเกมตอนนี้เหมือนฮอลลีวูด มีทั้งบล็อกบัสเตอร์ขนาดใหญ่และเกมอินดี้ แต่ ช่องว่างกลางแทบหายไป เขาแนะนำให้หันมาโฟกัสที่เกม AA เกมคุณภาพดีแต่ไม่ต้องใช้เงินมหาศาล

“ตั้งใจทำเกม เล่าเรื่องให้ชัดเจน ไม่ต้องไปกังวลเรื่องกราฟิกสมจริงเกินไป ออกแบบเกมให้ฉลาด แล้วส่งเกมถึงผู้เล่นเร็วขึ้น ภายใน 2–3 ปี ไม่ใช่ 7–10 ปี”

แม้อินดี้จะเติบโต แต่ปัญหาคือ ผู้เล่นหาคอนเทนต์เจอได้ยาก เขาย้อนคิดถึงยุค PS1–PS2 ที่เกมหลากหลาย ทั้ง Metal Gear Solid และ PaRappa the Rapper เล่นไปพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้งบสูง

“ตอนนี้งบเกม AAA สูงมาก ทำให้ผู้พัฒนากล้าเสี่ยงน้อยลง ความหลากหลายหายไป”

Layden ยังตั้งคำถามกับเกม open-world ที่ผู้เล่นสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง

“ทำไมเราต้องเปิดทุกประตู ปีนทุกหน้าต่าง หรือเดินไปถึงภูเขา ถ้าไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น?”

แนวคิดที่ว่า “เกมยาว = คุ้มค่า” ยังคงอยู่ แต่จริงๆ แล้ว เกมยาวไม่ได้หมายความว่าจะสนุกหรือเติมเต็มผู้เล่นมากกว่า

สรุปง่ายๆ ว่า อนาคตของเกมไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ แต่คือเนื้อหาและความคิดสร้างสรรค์ เกมที่มีเรื่องราวชัด สนุก และเข้าถึงง่าย นี่แหละคืออนาคตของวงการหลังยุค PS5 และ Xbox Series X

Comments

Popular posts from this blog

Romancing SaGa 3: RPG คลาสสิกบน Super Famicom ที่ยังตราตรึงใจ

ครบรอบ 40 ปี Ninja Jajamaru-kun

DRAGON QUEST I & II HD-2D Remake รีเมคที่แทบไม่ต้องเก็บเลเวลแล้ว

Miyamoto พูดถึงโอกาสเกมที่อาจเหนือกว่า Mario Kart

Samurai Spirits: Zankuro Musouken – ดาบไร้เทียมทานของซันคุโร

ครบรอบ 40 ปี Kinnikuman Muscle Tag Match เกมต่อสู้สุดมันก่อนยุค Street Fighter

Pokémon LEGENDS Z-A ทำยอดขาย 1.75 ล้านชุด ครองชาร์ตตุลาคม 2025

THE KING OF FIGHTERS 2001: จุดเปลี่ยนสำคัญของซีรีส์ KOF

Steam Machine จะราคาเท่าไหร่? บทวิเคราะห์จาก IGN

Keiji Inafune วิจารณ์อุตสาหกรรมเกมยุคนี้พึ่งชื่อ IP และกระแสเกินไป