เบื้องหลัง Rival Schools กับ Hideaki Itsuno

วันนี้เรามาคุยกับ Hideaki Itsuno เกี่ยวกับเกมต่อสู้ในตำนานอย่าง Rival Schools และเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจมากมาย เริ่มจากเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ Star Gladiator ก่อนเลย

จุดเริ่มต้นจาก Star Gladiator

Itsuno เล่าว่า Star Gladiator คือผลงานที่เขาได้เข้าร่วมทีมกลางคัน ในช่วงที่ Capcom เริ่มต้นทดลองพัฒนาเกมต่อสู้แบบ 3D ด้วยกราฟิกโพลิกอน ซึ่งยังไม่เคยทำมาก่อน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าผู้ออกแบบเกม

ตอนทำเกมนี้ Itsuno เจอปัญหาเกี่ยวกับตัวละคร Rimgal ที่มีท่าทางคล้ายไดโนเสาร์ T-Rex คอยาว ทำให้ในช่วงเริ่มยก ดูเหมือนหน้าของเขาจะอยู่ใกล้ท้องฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป ซึ่งทำให้ทีมงานกังวลเรื่องสมดุลการเล่น

Itsuno เคยขอปรับท่าทางหรือดึงคอกลับมา แต่ผู้กำกับ Yasuda ตอบกลับมาว่า “ฉันเป็นคนตัดสินใจว่าอะไรดูเจ๋งหรือไม่เจ๋ง” ทำให้ Itsuno รู้สึกเขินมากในตอนนั้น แต่ตอนนี้เขาคิดว่าท่าทางแบบนั้นดูเท่มาก

กำเนิด Rival Schools

หลังจาก Star Gladiator Itsuno อยากทำเกมต่อสู้ 3D ที่รันที่ 60fps เพื่อให้การเล่นลื่นไหลและเหมาะกับการแข่งจริง เพราะเกมก่อนหน้ารันแค่ 30fps

ตอนแรก Rival Schools มีชื่อว่า Justice Fist และมีเนื้อเรื่องว่า นักสู้จากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อแข่งหาแชมป์ แต่เพื่อนร่วมงานดูเหมือนจะเฉยๆ กับไอเดียนั้น Itsuno จึงเปลี่ยนแนวมาเป็นเกมต่อสู้ในโรงเรียนที่ทุกคนคุ้นเคย ซึ่งมีตัวละครถึง 40 คนมาแข่งกันเป็นตัวแทนห้อง

ไอเดียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโปรแกรมเมอร์โชว์ว่าบนจอสามารถมีตัวละครเล่นได้พร้อมกันถึง 3 คน จึงเกิดแนวคิดทีมละ 2 คนในเกม ซึ่งทำให้ระบบทีมและเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามโรงเรียนเข้ากันได้ดีมาก

ตัวละครและธีมโรงเรียน

Itsuno อยากให้เกมมีตัวละครหญิงเยอะขึ้น เพราะตอนนั้นยังหาได้ยากในเกมต่อสู้ทั่วไป โดยมีครูสาวใส่เสื้อกาวน์ขาว และตัวละครชายหญิงที่หลากหลาย

เขายังหยิบตัวละครจากเกมอื่นๆ มาช่วยเสริมความมั่นใจในการขายเกม เช่น Sakura จาก Street Fighter ที่ใส่ชุดนักเรียนพอดี และ Hinata ที่ใช้ชุดเดียวกับ Ibuki ใน Street Fighter III

ระบบการเล่นและฟีเจอร์เด่น

Rival Schools ใช้ปุ่มเพียง 4 ปุ่ม แตกต่างจาก Street Fighter ที่ใช้ 6 ปุ่ม ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

เกมมีระบบ team attacks ที่กดพร้อมกัน 3 ปุ่มเพื่อปล่อยท่าโจมตีร่วมกัน โดยเริ่มเกมมาก็มีเกจเต็ม ทำให้สามารถใช้ได้ตั้งแต่ต้นเกม

นอกจากนี้ ยังมีโหมด “Youthful Notebook” หรือโหมดบันทึกชีวิตนักเรียน ที่ทำขึ้นภายในเวลาสั้นๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้คนที่ไม่ใช่แฟนเกมต่อสู้ก็เล่นได้ และในเวอร์ชันคอนโซลมีโหมด Edit Mode ที่ให้ผู้เล่นสร้างตัวละครเองได้

ความทรงจำและความหวังในอนาคต

Itsuno เล่าว่าเกม Rival Schools เป็นที่นิยมมากจนแม้แต่เพื่อนที่ไม่เล่นเกมก็รู้จัก และเขายังอยากทำภาคใหม่ของ Rival Schools อยู่เสมอ

ตัวละครหลักอย่าง Batsu, Hinata และ Kyosuke ยังไม่จบเรื่องราวของพวกเขา เพราะตอนจบของเกม ตัวละครเหล่านี้เพิ่งเริ่มขึ้นปีที่ 3 ในโรงเรียน

ถ้าคุณเป็นแฟน Rival Schools อย่าลืมติดแฮชแท็ก #RivalSchools3 ทวีตบอก Itsuno กันได้นะครับ!

หมายเหตุ: บทความนี้อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ในปี 2016 อย่างไรก็ตาม Hideaki Itsuno ได้ลาออกจาก Capcom ในปี 2024 และเข้าร่วมกับ LightSpeed Studios ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันในฐานะหัวหน้าสตูดิโอ หากวันหนึ่งมีการสานต่อเกม Rival Schools ขึ้นมาอีกครั้ง ก็อาจไม่ใช่ผลงานของผู้กำกับคนเดิมอีกต่อไป



Comments

Popular posts from this blog

The Making Of: Earthion – เสน่ห์อมตะของ Mega Drive

Marvel Tōkon: Fighting Souls จะไม่จบเกมด้วยคอมโบเดียว

Sonic Mania – การกลับมาของเม่นสายฟ้าในรูปแบบคลาสสิก 2D

Dragon Ball Z II Gekishin Freeza!! เกม RPG แฟมิคอมยุค 90 ที่แฟนห้ามพลาด

อดีตหัวหน้า PlayStation ชี้ Game Pass ทำให้นักพัฒนาเหมือนลูกจ้างรายชั่วโมง

Xbox อาจถึงทางแยกแบบ Sega อดีตบอส PlayStation กล่าว

CAPCOM VS. SNK MILLENNIUM FIGHT 2000 ตำนานการดวลข้ามค่ายในฝัน

Gintama ประกาศสร้างภาพยนตร์ใหม่ “Yoshiwara Dai Enjou” ปี 2026

Yoshi’s Island จุดเริ่มต้นของฮีโร่ตัวเขียว

Ken ใน Fatal Fury, Chun-Li DLC และความเป็นไปได้ของ Capcom vs SNK