NINJA GAIDEN 4 เบื้องหลังการสร้างจาก Team NINJA และ PlatinumGames
13 ปีแห่งการรอคอย สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อ Koei Tecmo Games ร่วมมือกับ PlatinumGames ส่งภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์แอ็กชันนินจาระดับตำนาน NINJA GAIDEN 4 สู่มือแฟนๆ อีกครั้ง โดยมีกำหนดวางจำหน่ายบน Xbox Series X|S, PlayStation 5 และ PC ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้
ในโอกาสนี้ ทีมงานสื่อญี่ปุ่นได้พูดคุยกับเบื้องหลังผู้พัฒนา ตั้งแต่ Tomoko Nishii (Art Director), Masao Miyauchi (Lead Composer), Yudai Abe (Lead Level Designer) ไปจนถึง Yuji Nakao (Producer) และ Masakazu Hirayama (Director จาก Team NINJA) เพื่อเปิดเผยว่า พวกเขาสร้างเกมภาคนี้ให้ “ยังคงความเป็น NINJA GAIDEN” ได้อย่างไร
ต่อยอดจากภาค 2 สู่โลกอนาคต
Abe อธิบายว่าแนวคิดแรกเริ่มเกิดจากคำถามว่า
“ถ้าโลกของ NINJA GAIDEN 2 ผ่านไปอีก 10 ปี จะเป็นอย่างไร?”
ทีมงานจึงหยิบโทนโลกไซเบอร์ที่บ้าคลั่งอยู่แล้วในภาคเก่ามาขยายความ ให้มีความ “พีค” มากยิ่งขึ้น ทั้งสภาพแวดล้อมที่กดดันผู้เล่น และการออกแบบศัตรูที่สร้างความรู้สึกถูกต้อนจนมุมตลอดเวลา
Gore and Blood ที่ “ต้องแรงกว่าเดิม”
Nishii ยืนยันว่าหนึ่งในเป้าหมายหลักคือ “ห้ามทำให้ดูเบากว่าภาคเก่า” โดยเฉพาะการใช้เลือดเป็นองค์ประกอบในแอ็กชันของตัวละครใหม่ Yakumo ซึ่งใช้พลังจากเลือดตนเอง จึงยิ่งทำให้ภาพรวมดูรุนแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เธอยังออกแบบศัตรูสีขาวในช่วงต้นเกม เพื่อให้เลือดตัดกับภาพอย่างชัดเจนและมอบความสะใจเมื่อผู้เล่นฟาดฟัน
ดนตรีที่อัปเดต แต่ยังคงแก่นเดิม
Miyauchi เล่าว่า เนื่องจากภาคนี้เปลี่ยนทั้งตัวเอกและยุคสมัย เพลงจึงถูกปรับให้ร่วมสมัยขึ้น มีทั้งเพลงบอสที่ใส่เสียงร้อง และแนวดนตรีหลากหลาย แต่ยังคงอยู่ในกรอบความรู้สึกของ NINJA GAIDEN เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นเต้นโดยไม่เสียอัตลักษณ์
คีย์เวิร์ด “逆境 / 残虐 / 変化” – แก่นความมัน
Abe และ Nakao ร่วมกันสรุปคอนเซ็ปต์หลัก 3 คำว่า “逆境 (ตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน) / 残虐 (โหดร้าย) / 変化 (การเปลี่ยนแปลง)” ซึ่งกลายเป็นหัวใจของเลเวล ศัตรู และการนำเสนอภาพ แต่ละด่านถูกออกแบบให้เปลี่ยนบรรยากาศและความกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมคอนทราสต์สีและเอฟเฟกต์ที่ดึงอารมณ์ผู้เล่นให้จมอยู่ในสถานการณ์สุดขีด
อาวุธและเอกลักษณ์ของ Yakumo
เพื่อสร้างความต่างจาก Ryu Hayabusa ตัวเอกเก่า Yakumo ถูกออกแบบให้มีรูปร่างเล็กและสู้แบบเทคนิคัล อาวุธหลายชนิดสามารถเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีได้ เช่น “ดริลล์” ที่ดูหลุดโลก แต่ยังคงอยู่ในขอบเขตความรู้สึกแบบ NINJA GAIDEN
Nishii เสริมว่า อาวุธของ Yakumo ถูกตั้งใจให้ “ไม่ใช่อาวุธที่ Ryu จะใช้” เพื่อเน้นความแตกต่างด้านบุคลิก
ความท้าทายและการเข้าถึง
แม้ทีมจะยังคงโฟกัสความยากแบบดั้งเดิม แต่ก็ปรับระบบบังคับให้ลื่นขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นมือใหม่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แนวคิดคือ “ยากแต่เรียนรู้ได้” ซึ่งยังคงมอบความรู้สึกภูมิใจเมื่อเอาชนะศัตรูสุดโหดได้
โหมด MASTER NINJA ยังคงโหดสมชื่อ ถึงขั้นที่แม้แต่ทีมทดสอบยังเล่นจบได้เพียงไม่กี่คน
“นี่แหละ NINJA GAIDEN”
ทุกคนใน PlatinumGames และ Team NINJA มีเป้าหมายเดียวกัน คือสร้างเกมที่เมื่อหยิบขึ้นมาเล่นแล้วต้องร้องว่า
“นี่แหละ NINJA GAIDEN!”
ทั้งการเคลื่อนไหวของตัวละคร ศัตรู และความรู้สึกตอนต่อสู้ ถูกตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้ภาคนี้ยังคงมีกลิ่นอายของซีรีส์ แม้จะอัปเดตให้เข้ากับยุคปัจจุบัน
NINJA GAIDEN 4 จึงไม่ใช่แค่การกลับมาของซีรีส์ในรอบกว่าทศวรรษ แต่เป็นการรวมพลังของสองสตูดิโอเพื่อขยายความ “มันดิบ” ของต้นฉบับ พร้อมส่งต่อให้ผู้เล่นรุ่นใหม่และแฟนเก่าพร้อมกันในเดือนตุลาคมนี้
Comments
Post a Comment