Final Fantasy VII International – จุดเปลี่ยนสำคัญของ RPG ระดับตำนาน
Final Fantasy VII คือเกม RPG ที่สร้างชื่อให้กับ Square อย่างมหาศาลบนเครื่อง PlayStation ในปี 1997 ความสำเร็จนี้ไม่เพียงทำให้ยอดขายถล่มทลาย แต่ยังนำไปสู่การเปิดตัวเวอร์ชันพิเศษที่ชื่อว่า Final Fantasy VII International ซึ่งเพิ่มคอนเทนต์ใหม่และปรับปรุงระบบเกม ก่อนจะถูกพอร์ตไปยัง PC และต่อยอดสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ในเวลาต่อมา
จุดกำเนิดของเวอร์ชัน International
หลังจากที่เกมทำยอดขายในญี่ปุ่นทะลุ 3 ล้านชุด Square ได้เปิดตัว Final Fantasy VII International เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1997 โดยนำคอนเทนต์ที่เคยมีเฉพาะในเวอร์ชันอเมริกา กลับมาใส่ใหม่ในเวอร์ชันญี่ปุ่น พร้อมปรับปรุงหลายจุด ถือเป็นการฉลองความสำเร็จของเกมและยืดอายุในตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเข้ามา
เวอร์ชัน International ไม่ได้เป็นเพียงการรีพอร์ต แต่มีการเพิ่มเติมหลายอย่างที่ทำให้เกมสมบูรณ์ขึ้น เช่น
- เพิ่มเหตุการณ์และคัทซีนใหม่
- มีมาทีเรียและไอเทมใหม่ รวมถึงอาวุธที่เคยมีอยู่ในข้อมูลแต่หาไม่ได้จริงในเวอร์ชันแรก
- เพิ่มบอสลับสุดโหด “Ruby Weapon” และ “Emerald Weapon” ซึ่งกลายเป็นตำนานของแฟนๆ
- เพิ่มบอสบังคับ “Diamond Weapon” ในเนื้อเรื่องหลัก
- เพิ่มระบบช่วยเหลือ เช่น สัญลักษณ์บอกประตูหรือทางออกในแผนที่
- เมนูจัดการมาทีเรียที่ใช้ง่ายขึ้น สามารถสลับหรือจัดเรียงได้สะดวก
- มินิเกมสโนว์บอร์ดสามารถเล่นได้ด้วย Tifa และ Cid
นอกจากนี้ยังมีคู่มือพิเศษ Final Fantasy VII Perfect Guide ที่บรรจุข้อมูลแผนที่ ภาพสเก็ตช์ และสกรีนช็อตในช่วงพัฒนาอีกด้วย
การพอร์ตสู่ PC และการกลับมาอีกครั้ง
Final Fantasy VII International ยังถูกพอร์ตไปยัง PC (Windows) และต่อมาได้รีมาสเตอร์ใหม่ในปี 2012–2013 โดยเพิ่มฟีเจอร์ทันสมัย เช่น
- ระบบ Achievement หรือ Trophy
- โหมด Booster: เร่งความเร็ว 5 เท่า, ปิดการสุ่มต่อสู้, ฟื้นฟูอัตโนมัติ, ค่า Status MAX
- รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD
เวอร์ชัน PC นี้กลายเป็นต้นแบบสำหรับการพอร์ตลง PS4, iOS, Android, Xbox One และ Nintendo Switch ก่อนที่ Square Enix จะประกาศทำ Final Fantasy VII Remake ในปี 2015
มรดกของเวอร์ชัน International
แม้จะไม่ใช่เกมใหม่ทั้งหมด แต่ Final Fantasy VII International คือจุดสำคัญที่ทำให้เกมนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และยังสร้างมาตรฐานใหม่ในการทำเวอร์ชันพิเศษที่ตอบโจทย์ผู้เล่นทั่วโลก บอสลับอย่าง Emerald Weapon และ Ruby Weapon ก็ได้กลายเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้
เวอร์ชันนี้ยังเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การพอร์ตและการรีเมกในอนาคต ทำให้ Final Fantasy VII ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมยอดนิยมในยุค 90 แต่ยังคงยืนยาวในฐานะ RPG ข้ามเจเนอเรชันที่มีแฟนๆ ติดตามอย่างเหนียวแน่นจนถึงปัจจุบัน
Comments
Post a Comment