Sega มองว่าการปล่อย definitive version อาจทำให้ผู้เล่นลังเลซื้อเกมตอนเปิดตัว
Sega Sammy Holdings เพิ่งสรุปการถามตอบกับผู้ถือหุ้นในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสสองของปีการเงินสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2026 รายงานโดย GameBiz ระบุว่าการถามตอบครอบคลุมหลายเรื่อง ทั้งยอดขายเกมเก่าที่ลดลงอย่างกะทันหันเมื่อเทียบกับปีก่อน และรายได้ที่ผันผวนจากเกมใหม่ ทั้งแบบราคาปกติและ free-to-play
หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบขึ้นมาคือ แม้ Sega จะปล่อยเกมคุณภาพสูงและได้รับคำชมอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยอดขายกลับต่ำกว่าที่คาด
Sega ชี้ว่าสาเหตุอาจมาจากการแข่งขันในแนวเกมเดียวกันและราคาตั้งต้นของเกม อีกทั้งผู้เล่นบางส่วนที่รอ definitive version ในอนาคต อาจลังเลที่จะซื้อเกมตั้งแต่วันแรก ตัวแทนของบริษัทระบุว่าถึงตอนนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจน แต่ปัญหาอาจอยู่ที่การตลาดที่ยังไม่สามารถสื่อความน่าสนใจของเกมไปถึงผู้เล่นได้เต็มที่ และตอนนี้บริษัทกำลังวิเคราะห์ปัญหาอย่างจริงจัง
แม้จะไม่ได้ระบุเกมที่มียอดขายต่ำ แต่ผู้เล่นในญี่ปุ่นมองว่าปัญหา definitive version น่าจะเกี่ยวข้องกับเกมของ Atlus ตัวอย่างเช่น Shin Megami Tensei V วางจำหน่ายปลายปี 2021 ก่อนจะมีเวอร์ชันอัปเดต Shin Megami Tensei V: Vengeance ในกลางปี 2024 ใช้เวลาไม่ถึงสามปีหลังเปิดตัว รูปแบบนี้พบได้บ่อยในเกมใหม่ของ Atlus รวมถึงซีรีส์ Persona
ด้านยอดขาย RPG Metaphor: ReFantzio ของ Atlus ขายได้หนึ่งล้านชุดในวันแรก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ แต่หลังจากนั้นยอดขายลดลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณครึ่งปีกว่าจะถึงสองล้านชุด แม้ว่ายอดขายจะขึ้นลงด้วยหลายปัจจัย แต่ผู้เล่นบางส่วนมองว่าพวกเขาอาจรอ definitive version ที่จะออกในอีกไม่กี่ปี จึงลังเลที่จะซื้อเกมเวอร์ชันปกติตั้งแต่แรก
Comments
Post a Comment