เบื้องหลังการคืนชีพ Dragon Force บน PS2: จุดเริ่มต้นของโปรดิวเซอร์หน้าใหม่

Okunari Yosuke นักเขียนผู้เปิดตัวด้วยหนังสือ Sega Hardware Senki เมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับคำเชิญจากคุณ RF Maruyama ให้มาเล่าเรื่องราวจากเบื้องหลังอุตสาหกรรมเกมในฐานะอดีตทีมงาน Sega ซึ่งครั้งแรกที่เขาหยิบมาเล่า คือเบื้องหลังการรีเมคเกม Dragon Force บน PlayStation 2 หนึ่งในงานชิ้นแรกที่เขาได้มีโอกาสดูแลในฐานะโปรดิวเซอร์

Dragon Force เป็นเกมแนว Simulation RPG ที่วางจำหน่ายครั้งแรกบน Sega Saturn ในฤดูใบไม้ผลิปี 1996 ความโดดเด่นอยู่ที่ฉากต่อสู้แบบกองทัพร้อยต่อร้อยที่สร้างความตื่นตาให้ผู้เล่น เกมนี้ได้รับความนิยมไม่แพ้ Panzer Dragoon Zwei หรือ Victory Goal '96 ที่ออกวางจำหน่ายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

การเดินทางครั้งใหม่ของ Dragon Force บนเครื่อง PS2 เริ่มต้นขึ้นในปี 2005 หลังจาก Sega หยุดผลิต Dreamcast และเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้พัฒนาเกมให้แพลตฟอร์มอื่น Okunari ซึ่งขณะนั้นทำงานที่ Sega Wow ได้พบกับโปรเจกต์หนึ่งโดยบังเอิญเมื่อแวะไปที่สำนักงานใหญ่ใน Otorii สิ่งที่เขาเห็นคือเวอร์ชั่น 3D ของ Fantasy Zone ที่กำลังถูกพัฒนาเป็นเกมราคาประหยัดบน PS2 โดยทีมงานภายนอก นี่คือจุดเริ่มต้นที่เขาได้รู้จักกับซีรีส์ SEGA AGES 2500 ซึ่งพัฒนาโดย 3D AGES ความร่วมมือระหว่าง Sega และ D3 Publisher

Okunari กลับไปเล่าเรื่องนี้ให้หัวหน้าที่ Sega Wow ฟัง และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่บริษัทตัดสินใจเข้าร่วมโปรเจกต์ เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลการพัฒนา Dragon Force ฉบับ PS2 โดยมีหัวหน้าเก่าซึ่งเคยกำกับเกมต้นฉบับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุน

ทีมงานดั้งเดิมเริ่มถูกรวบรวมกลับมา คนแรกที่เขาติดต่อคือ Shimizu Toru ดีไซเนอร์หลักของ Dragon Force ซึ่งในอดีตเคยเป็นอนิเมเตอร์ และร่วมพัฒนาเกมกับ Nippon Telenet ก่อนจะย้ายมาร่วมทีม Sega เขาคือผู้ที่ออกแบบงานศิลป์มากมาย ทั้งใน Eternal Arcadia บน Dreamcast และ Shinobi เวอร์ชั่น PS2 แต่ในขณะนั้น Shimizu ยังอยู่ระหว่างการดูแลโปรเจกต์ Shinobi 2 ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมทีมได้โดยตรง

แม้จะไม่ได้ร่วมพัฒนาในขั้นต้น Shimizu ก็ช่วยแนะนำผู้ร่วมงานที่สำคัญสองคนให้ Okunari ได้แก่ Hino Shinnosuke นักออกแบบตัวละครที่มีผลงานกับ Spectral Force และ Kureya Makoto นักเขียนบทผู้เคยมีส่วนร่วมใน Shenmue ทั้งสองตอบรับด้วยความยินดี นอกจากนี้ทีมซาวด์จาก Wave Master ก็ตอบรับเข้าร่วม ทำให้ทีมพัฒนาใหม่มีแกนหลักจากทีมเก่าอยู่ครบถ้วน

เกมในซีรีส์ SEGA AGES 2500 วางจำหน่ายในราคาประมาณ 2,500 เยน งบประมาณในการพัฒนาแต่ละเกมจึงต้องจำกัดตามไปด้วย การพัฒนา Dragon Force จึงเลือกใช้โปรแกรมหลักจากเวอร์ชั่น Saturn โดยไม่เปลี่ยนสมดุลของเกม แต่จะปรับปรุงบางส่วน เช่น การเพิ่มบทสนทนาพิเศษระหว่างตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยให้ Kureya เป็นผู้เขียนบทเพิ่มเติม

ในด้านงานศิลป์ Hino ยืนยันว่าเขาต้องการวาดภาพใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเอง แม้จะมีตัวละครมากถึง 130 ตัว และฉากอีเวนต์กว่า 150 ฉากก็ตาม เขายืนยันว่าแฟนๆ สมควรได้รับผลงานที่ดีที่สุด จึงตัดสินใจเพิ่มตัวละครและเนื้อหาใหม่อีกด้วย

งานภาพดูเหมือนจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของโปรเจกต์ แม้ Hino จะทำงานได้ดีในช่วงต้น แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวาดภาพประกอบตัวละครและฉากอีเวนต์ งานก็เริ่มชะงัก การใช้โปรแกรมจาก Saturn ก็เต็มไปด้วยปัญหา ทำให้กระบวนการพัฒนาล่าช้าอย่างมาก

ในจังหวะวิกฤต การยกเลิกโปรเจกต์ Shinobi 2 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ Shimizu ประกาศลาออกจาก Sega Wow เพื่อไปเป็นนักเขียนการ์ตูน และเสนอตัวกลับมาช่วยงานในฐานะฟรีแลนซ์ เขาเข้ามาจัดการงานภาพให้ Hino อย่างมีประสิทธิภาพ งานศิลป์ที่ดูเหมือนจะไม่เสร็จทันก็ถูกเร่งกลับมาได้ในที่สุด การร่วมงานอีกครั้งของสองคู่หูจากยุค Saturn ทำให้โปรเจกต์กลับมาสู่เส้นทางได้อย่างน่าทึ่ง

เมื่อปัญหาด้านโปรแกรมและภาพได้รับการแก้ไข เกมเวอร์ชั่น PS2 ก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยคุณภาพที่เหนือความคาดหมาย ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในสื่อเกมเช่น Weekly Famitsu และมียอดขายที่น่าพอใจ

หลังเกมวางจำหน่าย ทีมงานกลับมาฉลองกันอีกครั้ง Hino หัวเราะพลางบอกว่าเขาไม่เคยลงสีภาพจำนวนมากขนาดนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ มาก่อน ส่วน Okunari ที่นั่งฟังถึงกับหน้าซีด

ระหว่างที่การพัฒนาเกมล่าช้า ซีรีส์ SEGA AGES 2500 ก็เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน D3 Publisher ถอนตัวจากโปรเจกต์ บริษัท 3D AGES ถูกยุบ และ Sega ตัดสินใจเดินหน้าด้วยตัวเอง Okunari ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลซีรีส์นี้ต่อในฐานะโปรดิวเซอร์ และย้ายจาก Sega Wow ไปสังกัด Sega อย่างเต็มตัว การพบกับคุณ Horii จาก M2 ก็เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน

เกม Dragon Force เวอร์ชั่น PS2 ยังวางจำหน่ายบน PlayStation Store สำหรับ PS3 ในราคา 762 เยน (ไม่รวมภาษี) แม้ยุคของ PS5 จะมาถึงแล้ว แต่ใครที่ยังมี PS3 และสนใจ อย่าลืมไปลองสัมผัสความคลาสสิกเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ด้วยตัวเอง


Dragon Force

Comments

Popular posts from this blog

The Making Of: Earthion – เสน่ห์อมตะของ Mega Drive

Marvel Tōkon: Fighting Souls จะไม่จบเกมด้วยคอมโบเดียว

Sonic Mania – การกลับมาของเม่นสายฟ้าในรูปแบบคลาสสิก 2D

Dragon Ball Z II Gekishin Freeza!! เกม RPG แฟมิคอมยุค 90 ที่แฟนห้ามพลาด

อดีตหัวหน้า PlayStation ชี้ Game Pass ทำให้นักพัฒนาเหมือนลูกจ้างรายชั่วโมง

Xbox อาจถึงทางแยกแบบ Sega อดีตบอส PlayStation กล่าว

CAPCOM VS. SNK MILLENNIUM FIGHT 2000 ตำนานการดวลข้ามค่ายในฝัน

Gintama ประกาศสร้างภาพยนตร์ใหม่ “Yoshiwara Dai Enjou” ปี 2026

Yoshi’s Island จุดเริ่มต้นของฮีโร่ตัวเขียว

Ken ใน Fatal Fury, Chun-Li DLC และความเป็นไปได้ของ Capcom vs SNK