เปิดตำนาน Street Fighter Alpha กับ Hideaki Itsuno
เมื่อพูดถึง Street Fighter Alpha หลายคนคงนึกถึงเกมไฟต์ติ้งสุดคลาสสิกที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซีรีส์ Street Fighter แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ Hideaki Itsuno ที่ตอนนั้นยังเป็นพนักงานใหม่ใน Capcom และรับหน้าที่กำกับโปรเจกต์นี้แบบไม่ทันตั้งตัว
Itsuno เล่าว่า ตอนเริ่มทำงานที่ Capcom เขามักจะมาถึงออฟฟิศก่อนเวลาทำงานประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดโต๊ะทำงาน พอทำเสร็จก็จะใช้เวลาที่เหลือเล่นเกม โดยส่วนใหญ่เป็นเกมของคู่แข่ง เพราะเล่นเกมของ Capcom เป็นเรื่องงานจริงๆ
ในช่วงเวลานั้น Capcom กำลังเร่งพัฒนาเกม Street Fighter เพื่อนำไปลงบนเครื่อง Super Famicom ซึ่งถือว่าเป็นยุคทองของเครื่องนี้ ทีมงานมีศิลปินดาวรุ่งอย่าง Bengus ที่วาดคอนเซ็ปต์อาร์ตเกมได้โดดเด่นมาก แต่ขณะเดียวกันโปรเจกต์นี้กลับขาดดีไซเนอร์เกมสักคน
หัวหน้าทีม Funamizu-san จึงชวน Itsuno ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในบริษัทว่าอยากลองทำโปรเจกต์นี้ไหม แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำเกมไฟต์ติ้งมาก่อนและยังไม่มีประสบการณ์ทำเกมมากนัก แต่ Itsuno ตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล
ความท้าทายสำคัญคือ ระยะเวลาพัฒนาที่สั้นมาก เริ่มงานในเดือนธันวาคม ก่อนเกิดแผ่นดินไหวฮันชินไม่นาน และต้องมีการทดสอบเกมในอเมริกาภายในเดือนพฤษภาคมปีถัดไป เท่ากับว่าทั้งโปรเจกต์ใช้เวลาพัฒนาประมาณครึ่งปีเท่านั้น
อีกเรื่องที่ซับซ้อนคือ ในขณะที่ทีมหลักของ Capcom กำลังทุ่มเทพัฒนา Street Fighter III บนระบบใหม่ CPS3 Itsuno และทีมงานเล็กๆ ต้องรับผิดชอบพัฒนาเกมบนบอร์ดเก่า CPS1 เพราะ Capcom ต้องการจัดการกับสต็อกฮาร์ดแวร์ที่ยังเหลืออยู่ให้หมดไปก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้บอร์ดรุ่นใหม่
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ ตัวละครจากเกม Final Fight ที่ปรากฏใน Street Fighter Alpha นั้น มีเหตุผลทางเนื้อเรื่อง เพราะ Final Fight ในอดีตถูกเรียกว่า Street Fighter ’89 ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง Street Fighter ภาคแรกและภาคสอง การนำตัวละครจากสองจักรวาลนี้มารวมกันจึงทำให้แฟนๆ รู้สึกเชื่อมโยงและชื่นชอบ
แม้ทีมงานจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก และโปรเจกต์จะเต็มไปด้วยความท้าทายและความเร่งรีบ แต่ Capcom กลับไม่กังวลเรื่องยอดขาย เพราะพวกเขาต้องการทดลองไอเดียใหม่ๆ พร้อมกับจัดการกับสต็อกฮาร์ดแวร์เก่าไปด้วย
ด้วยความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของทีม Itsuno จึงสามารถสร้าง Street Fighter Alpha ให้กลายเป็นเกมคลาสสิกที่แฟนๆ รักและยังคงมีอิทธิพลในวงการเกมไฟต์ติ้งจนถึงปัจจุบัน
นี่คือเรื่องราวของการเริ่มต้นที่ไม่คาดฝันและความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากทีมงานรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของเกมไฟต์ติ้งตลอดไป
Comments
Post a Comment