Yoshi’s Island จุดเริ่มต้นของฮีโร่ตัวเขียว
Super Mario World 2: Yoshi’s Island วางจำหน่ายครั้งแรกบน Super Famicom วันที่ 5 สิงหาคม 1995 เป็นเกมแอ็กชันเลื่อนฉากข้างที่เปลี่ยนบทบาทตัวเอกจาก Mario มาเป็น Yoshi เต็มตัว พร้อมกราฟิกแนวใหม่ที่เหมือนวาดด้วยมือ
เมื่อทารก Mario ตกลงจากฟ้า
เรื่องราวเปิดฉากเมื่อ Kamek พ่อมดแห่ง Koopa Kingdom พยายามลักพาตัวทารกฝาแฝดที่อาจเป็นภัยต่ออนาคตของอาณาจักร แต่พลาดไปหนึ่ง ทำให้ Baby Mario ตกลงมายังเกาะ Yoshi’s Island
Yoshi ตัวหนึ่งช่วยเขาไว้ได้ และเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยชี้นิ้วไปทางใดทางหนึ่ง Yoshi ทั้งเกาะจึงร่วมมือกันผลัดเปลี่ยนแบกเด็กน้อย ฝ่าด่านต่างๆ ไปช่วยน้องชายของเขา
เกมที่ต้อง “ปกป้อง” มากกว่า “กระโดด”
ผู้เล่นจะบังคับ Yoshi ที่ต้องพา Baby Mario ไปให้ถึงจุดหมายของแต่ละด่านโดยปลอดภัย หากโดนศัตรูโจมตี เด็กจะลอยออกไปในฟองสบู่ พร้อมเสียงร้องจี้ใจ และต้องรีบช่วยก่อนตัวเลข “Star” จะลดจนหมด
เกมมีทั้งหมด 6 เวิลด์ 48 ด่าน ไม่มีทางลัดหรือวาร์ป ผู้เล่นต้องผ่านทุกด่านตามลำดับ หากเก็บไอเทมครบและได้คะแนนเต็ม 100 จะปลดล็อกด่านพิเศษและโบนัส
จาก 3D สู่ลายเส้นวาดมือ
ช่วงที่เกมกำลังพัฒนา Donkey Kong Country ของ Rare ได้สร้างกระแสด้วยกราฟิก 3D แต่ทีมของ Yoshi’s Island ตัดสินใจสวนกระแส ใช้ภาพแบบวาดมือให้ดูสดใหม่ต่างออกไป
จุดเปลี่ยนของงานออกแบบเกิดขึ้นเมื่อดีไซเนอร์หน้าใหม่ Hisashi Nogami นำภาพภูเขาที่วาดด้วยมาร์กเกอร์มาเสนอ และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมใช้ลายเส้นแนวนี้ตลอดทั้งเกม
ทีมเล็กๆ ที่เกือบไปไม่รอด
ผู้ออกแบบเกมคือ Shigefumi Hino ซึ่งเคยร่วมงานใน Super Mario World เขาอยากทำอะไรใหม่ๆ และคิดว่าให้ Yoshi เป็นพระเอกจะเปิดทางสร้างเกมที่ไม่เหมือนเดิม
โปรเจกต์เดินหน้าได้ไม่นาน ทีมบางส่วนถูกเรียกไปช่วยพัฒนา Super Mario 64 บน NINTENDO 64 ที่กำลังจะเปิดตัว ทำให้เหลือทีมหลักแค่ไม่กี่คน แต่ด้วยคำแนะนำของ Takashi Tezuka และกำลังใจจากทีมงานที่กลับมาช่วงท้าย เกมจึงเสร็จสมบูรณ์ทันกำหนด
Hino เคยบอกว่า “ชิ้นส่วนทุกอย่างมีครบ แต่ถ้าไม่มี Tezuka หรือ Miyamoto มาช่วยประกอบช่วงท้าย เกมก็คงไม่ลงตัวเท่านี้”
จากภาคแยก สู่ซีรีส์ Yoshi เต็มตัว
แม้จะเริ่มจากการเป็นภาคต่อของ Super Mario World แต่ Yoshi’s Island ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ Yoshi โดยสมบูรณ์ เกมยังถูกนำกลับมาในเวอร์ชัน Super Mario Advance 3 และอีกหลายแพลตฟอร์มภายหลัง
ด้วยภาพที่ไม่เหมือนใคร ระบบเล่นที่เน้นการปกป้องมากกว่าการต่อสู้ และเนื้อเรื่องที่แฝงความอบอุ่น Yoshi’s Island จึงยังเป็นหนึ่งในเกมที่แฟน Nintendo จดจำได้ไม่ลืม
ภาพประกอบจาก Nintendo
Comments
Post a Comment