จาก System 16 สู่วิถี Mega Drive การเดินทางครั้งใหม่ของ SEGA

ปี 1988 คือปีที่วงการเกมกำลังคึกคักสุดขีด และในเดือนตุลาคมของปีนั้น SEGA ได้เปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลลำดับที่ห้า Mega Drive อันเป็นก้าวสำคัญที่ต่อยอดจากความสำเร็จของฮาร์ดแวร์อาร์เคดยุคก่อนหน้า

จริงๆ แล้วโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ SEGA จุดเริ่มต้นมาจากบอร์ดอาร์เคด “System 16A/B” ที่เปิดตัวในเดือนมกราคมปีนั้น บอร์ดนี้คือรากฐานของเกมดังมากมาย ทั้ง Fantasy Zone, Golden Axe, Quartet และแม้กระทั่ง Tetris เวอร์ชันอาร์เคด สิ่งที่ทำให้มันประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่พลังประมวลผล 16 บิตของ CPU MC68000 เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบการเปลี่ยนตลับ ROM ที่ทำให้ร้านเกมประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ถือเป็นโมเดลที่ “เหมือนเครื่องคอนโซลในร้านเกม”

หากย้อนไปก่อนหน้านั้น SEGA เคยสร้างชื่อด้วยเกม Hang-On และ Space Harrier ในปี 1985 เกมตู้ที่ไม่เพียงดึงดูดสายตาด้วยตู้บังคับขนาดใหญ่และลูกเล่นการเคลื่อนไหว แต่ยังสร้างความตื่นตะลึงด้วยภาพ เสียง และความเร็วที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันคือจุดที่ทำให้ SEGA กลับมาเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในตลาดอาร์เคดอีกครั้ง และประสบการณ์เหล่านี้ก็นำไปสู่การพัฒนา System 16 ที่ใช้ได้กับเกมหลากหลายแนว

ในช่วงเวลาเดียวกัน SEGA ยังต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ เมื่อจะก้าวจาก 8 บิตของเครื่อง Mark III ไปสู่ 16 บิตเต็มรูปแบบหรือไม่ สุดท้ายด้วยการตัดสินใจของหัวหน้าฝ่ายพัฒนา Hideki Sato บริษัทสั่งผลิตชิป 16 บิตในจำนวนมากจนราคาลดลง ทำให้ Mega Drive ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทั้ง 16 บิตและ 8 บิตภายในเครื่องเดียว

ราคาขายปลีก 21,000 เยน อาจดูสูงกว่าเครื่องรุ่นก่อน แต่เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ X68000 ที่ใช้ชิปเดียวกันแต่มีราคากว่า 300,000 เยนแล้ว Mega Drive ถือว่า “ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ”

เดือนกันยายน 1988 มีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมโชว์เกมอย่าง Space Harrier II, Super Thunder Blade, Altered Beast และ Alex Kidd in the Enchanted Castle ภาพกราฟิกที่สดใสและตัวละครขนาดใหญ่กลายเป็นสิ่งที่สะกดสายตาผู้ชม แม้จะมีปัญหาด้านการพัฒนา ทำให้สุดท้ายวันเปิดตัวจริงมีเพียงสองเกมที่วางจำหน่ายพร้อมเครื่อง แต่ก็เพียงพอที่จะประกาศว่า “ยุค 16 บิต” ของคอนโซลได้เริ่มต้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Mega Drive ไม่ได้ราบรื่นเสียทีเดียว ตลาดเกมปลายปี 1988 นั้นดุเดือดอย่างยิ่ง ฝั่ง Nintendo มี Super Mario Bros. 3 และเกมดังอีกหลายเรื่อง ส่วน NEC ก็สร้างกระแสด้วย PC Engine และชุดเสริม CD-ROM² ซึ่งแม้จะมีราคาแพงลิบ แต่แสดงให้เห็นว่าอนาคตของเกมกำลังเปลี่ยนไป

สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนเมื่อ SEGA เลือกที่จะให้สิทธิ์เกมดังอย่าง Fantasy Zone และ Space Harrier ไปโผล่บนเครื่องคู่แข่ง ทั้ง PC Engine และ Famicom การเห็นเกมที่ตนเองรักไปอยู่บนเครื่องอื่นในช่วงที่ Mega Drive เพิ่งออกวางขาย ทำให้แฟนหลายคนรู้สึกสับสน

แต่ไม่ว่ากระแสวันเปิดตัวจะเงียบเหงาเพียงใด Mega Drive ก็ได้วางรากฐานสำคัญไว้แล้ว พลัง 16 บิตที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างชื่อในอาร์เคด ถูกส่งต่อมาสู่ห้องนั่งเล่นของผู้เล่นทั่วญี่ปุ่น และเส้นทางของมันกำลังจะเดินหน้าต่อไปในปี 1989 ที่รออยู่ข้างหน้า

Comments

Popular posts from this blog

ปริศนาไขกระจ่าง A・B แล้วทำไมเป็น X・Y จุดเริ่มจาก SFC

Rockman 3: Dr. Wily no Saigo!? – จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของฮีโร่สีฟ้า

Seiken Densetsu 3 – ตำนานมานาครั้งสุดท้ายบน SFC

Street Fighter II Dash Plus บน Mega Drive – อีกก้าวของตำนานไฟท์ติ้ง

Yu Yu Hakusho Makyou Touitsu Sen เกมต่อสู้ 4 คนบน Mega Drive

Final Fantasy VII International – จุดเปลี่ยนสำคัญของ RPG ระดับตำนาน

Dragon Quest V กับการผจญภัยสามช่วงชีวิตบน SFC

Real Bout Garou Densetsu 2: The Newcomers ลง Steam แล้ว!

R-TYPE ฉบับ Master System ความพยายามที่ไม่ธรรมดา